สุดสลด เสือแม่ลูกอ่อนห้วยขาแข้งถูกล่า ชำแหละลงกล่อง

สุดสลด เสือแม่ลูกอ่อนห้วยขาแข้งถูกล่า ชำแหละลงกล่อง

ผู้เชี่ยวชาญเสือชี้ เป็นเสือแม่ลูกอ่อนถูกขับออกจากฝูง ยังไม่รู้ชะตากรรมเสือน้อยอีก 2 ตัว วางกำลังเข้ม เชื่อยังมีความพยายามล่าอยู่อีก

14 พ.ย. 2558

ห้องข่าวกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน  ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายธัญญา เนติธรรมกุล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ แถลงข่าวความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหา ราย พร้อมซากเสือโคร่ง ตัวบรรจุอยู่ในกล่องโฟมเมื่อวานที่ผ่านมานั้น

นายธัญญา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด และทหาร นำกำลังจับกุมนายนิพนธ์ สุขสมบท อายุ 41 ปี และนายลือไทย เตี่ยวเจริญ อายุ 55 ปี พร้อมรถเก๋งนิสสัน ซันนี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กง 1132 กรุงเทพมหานคร พร้อมซากเสือโคร่งเพศเมียสภาพสดน้ำหนัก 79 กิโลกรัม มีอวัยวะครบทุกส่วน ซาก บรรจุอยู่ในกล่องโฟม อัดด้วยน้ำแข็ง และเกลือ เมื่อนำซากเสือโคร่งมาตรวจสอบกับฐานข้อมูลภาพถ่าย โดยสังเกตจากลายเสือตามลำตัวพบว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2555 และต่อเนื่องจนถึงปี 2558 และพบว่ามีลูกเสืออีก ตัว อายุประมาณ 7-8 เดือน แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของลูกทั้งสอง

นายธัญญากล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสืบสวนว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายมาจากขบวนการลักลอบฆ่าสัตว์หรือไม่ เพราะผู้ต้องหายังไม่ให้รายละเอียดที่ชัดเจนมากนัก แต่จะเร่งสืบจากเบอร์โทรศัพท์ของผู้ต้องหา เพราะมีการติดต่อกับบุคคลอีก สำหรับซากเสือนั้นเมื่อคดีสิ้นสุดแล้วจะมีการทำลายตามหลักทางวิชาการ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่ายังมีการล่าเสือโคร่งหลงเหลืออยู่ แต่เพื่อไม่ให้การสูญเสียเกิดขึ้นอีก กรมอุทยานฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร ในการลาดตระเวนเชิงคุณภาพให้มีความเข้มข้น และลาดตระเวนให้ถี่มากขึ้น นอกจากนี้จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนรอบบริเวณป่าให้ช่วยกันดูแลปกป้องทรัพยากรสัตว์ป่า และต่อต้านการค้าสัตว์ป่า โดยเฉพาะเสือโครงซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

ปัจจุบันในไทยมีประชากรเสือโคร่งในธรรมชาติเหลืออยู่ประมาณ 100 กว่าตัว ซึ่งในเฉพาะพื้นที่ป่าห้วยขาแข้งมีประมาณ 70-80 ตัว 

นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการตรวจสอบลายเสือพบว่า เสือตัวที่ถูกฆ่านั้น เป็นเสือที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รหัส HKT212 เป็นเสือตัวเมีย อายุ ประมาณ 5-6 ปี ก่อนหน้านี้ไม่นานถ่ายรูปพบที่ห้วยขาแข้งพบว่าเป็นเสือแม่ลูกอ่อน โดย HKT212 นี้กำลังเลี้ยงลูกด้วย ตัว แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม ลูกทั้ง ตัว ว่าเป็นอย่างไรบ้าง




"เราพบ HKT212 เมื่อราวปีที่แล้ว ตอนนั้นเขาเลี้ยงลูกเล็กๆอายุประมาณ 7-8 เดือน ตัว ถึงตอนนี้คาดว่าลูกๆน่าจะอายุประมาณ 20 เดือน จากข้อมูลพบว่า HKT212 ตัวนี้น่าจะถูกขับออกมาจากฝูง พร้อมลูก จากห้วยขาแข้งออกมาอยู่แถวทุ่งใหญ่นเรศวร และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติของเสือ ลูกเสือที่อายุประมาณ 20 เดือน จะเริ่มหากินได้เองบ้าง แต่ยังต้องมีแม่คอยช่วยเหลือเป็นบางครั้ง การที่แม่เสือถูกล่าเช่นนี้อาจจะทำให้ลูกเสือทั้ง ลำบากบ้าง เรายังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนี้คงต้องติดตามต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร" นายศักดิ์สิทธิ์กล่าว

นายศักดิ์สิทธิ์กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะเลวร้าย สำหรับคนทำงานด้านนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งทุกคนต่างตั้งใจและทุ่มเทกับการทำงานตรงนั้นอย่างเต็มที่ การต้องมาเห็นเสือในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ เฝ้าติดตามมาเป็นแรมปีต้องมากลายเป็นซากเพราะถูกคนฆ่าตาย ถูกแล่เนื้อเถือหนังออกมาเป็นชิ้นๆ แบบนี้มันสะเทือนใจอย่างยิ่ง ทุกคนที่รู้ทั้งโกรธและเศร้าใจกับการกระทำครั้งนี้อย่างยิ่ง ผมเห็นเนื้อเสือที่เขาแล่ใส่ลังน้ำแข็งแล้วอยากถามว่า กินทำไม เนื้อเสือไม่ใช่สิ่งที่ควรกินเลย เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อไก่มีเยอะแยะ เข้าใจว่า คนล่าคงมีเจตนาเอาหนัง และกระดูกไปใช้ประโยชน์มากกว่า "อย่าถามผมเลยว่า มันซื้อขายกันราคาเท่าไหร่ ผมไม่รู้ราคา แต่คิดว่า ราคาคงจะสูงอยู่ มิฉะนั้นคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะเข้าไปทำขนาดนี้ ขอยืนยันว่า การลาดตระเวนเพื่อดูแลป่าของห้วยขาแข้งค่อนข้างจะเข้มแข็ง ซึ่งผู้ร้ายคงต้องวางแผนกันนานและอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ" นายศักดิ์สิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า เวลานี้ ยังมีขบวนการล่าเสือเพื่อเอาไปขายกันอยู่อีกหรือ นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า ตราบใดที่ยังมีความต้องการ ขบวนการพวกนี้ก็ยังไม่หมดแน่นอน เพราะเสือเป็นสัตว์ที่ตลาดมืดยังมีความต้องการสูง เพราะยังมีความเชื่อผิดๆในเรื่องการเอาไปทำยาโป๊วบำรุงร่างกาย หรือทำเครื่องประดับ หลังจากนี้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีก คิดว่า ขบวนการดังกล่าวอาจจะยังมีความพยายามทำเช่นนี้อีก
Powered by Wimut Wasalai