นาย ชัชวาลย์ พิศดำขำ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า ที่กรมอุทยานฯเตรียมเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูสัตว์ป่าของ กลางที่ได้จากการจับกุมผู้กระทำผิดในคดีลักลอบค้าสัตว์ป่าว่า ขณะนี้นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานฯได้เห็นชอบในหลักการโครงการเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด รูปแบบ พร้อมสำรวจ และขึ้นทะเบียนสัตว์ป่าของกลางทั้งหมด ในการเปิดรับสมัครผู้ที่มีใจรักสัตว์เข้าร่วมเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ต่อไป คาดว่าประมาณต้นเดือนพฤษภาคมจะประกาศรับสมัครผู้สนใจได้
"เบื้อง ต้นจะเปิดรับเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ 2 ชนิด คือ เสือโคร่ง และหมี ทั้งหมีคน และหมีควาย ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความละเอียดอ่อนในการเลี้ยงดู และใช้งบประมาณค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีเสือโคร่งที่อยู่ในการดูแลของกรมอุทยานฯ 30 ตัว และหมี 100 ตัว กระจายอยู่ตามสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าในสังกัดทั่วประเทศ เช่น สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สำรวจขึ้นทะเบียนสัตว์ทั้งหมดแล้ว" นายชัชวาลย์กล่าว และว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการสำรวจค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ใช้ในการดูแล สัตว์ต่อ 1 ตัว สรุปเบื้องต้นว่า เสือโคร่งจะมีค่าใช้จ่ายตัวละประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อเดือน และหมีตัวละ 1,200 บาทต่อเดือน
นาย ชัชวาลย์กล่าวว่า สำหรับพ่อแม่อุปภัมภ์จะสามารถเข้าเยี่ยมสัตว์ป่าที่อุปการะไว้ได้ตามวาระ โอกาสสำคัญต่างๆ เช่น วันเกิด วันปีใหม่ หรืออาจจะร่วมตั้งชื่อ และทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ให้กับประชาชน เพราะการอนุรักษ์มี 2 แบบ คือ 1.อนุรักษ์ให้สัตว์ได้ใช้ชีวิตอยู่ในป่าตามธรรมชาติ และ 2.อนุรักษ์สัตว์ป่าในกรงเลี้ยง